ฉีด filler คือการฉีดสารที่เรียกว่า (HA) หรือ กรดไฮยาลูโรนิค แอซิด ที่จะมาแทนที่และเติมเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยพยุงโครงสร้างใบหน้า ทำให้ใบหน้ายกกระชับ ดูอิ่มเอิบ เพิ่มความยืดหยุ่นในการเติมเต็มร่องลึกเพื่อให้ดูอ่อนกว่าวัย

ฉีด filler

ฉีด filler ฉบับเร่งด่วน กู้หน้าโทรม ตาคล้ำ หน้าไม่กระชับ ใช้ได้จริงไม่มโน

ฉีด filler มีหลายประเภทที่สามารถช่วยในส่วนต่างๆ ของใบหน้าได้ การฉีดฟิลเลอร์ ไม่เหมือนกับการเป่าลมเข้าไปในบอลลูนที่ตรงไหนยุบ ตรงไหนย่น หรือมีร่องแล้วจะ ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเดี๋ยวก็พองเอง แพทย์จะใช้สารเติมเต็มเพื่อทดแทนไขมัน ที่หดตัวและมวลกระดูกที่สึกกร่อน ตามวัยนอกจากนี้ ฟิลเลอร์ จะช่วยเติมเต็ม แล้วยังทำให้หน้าดูสดใส เหมือนการเพิ่มโครงสร้างให้กับใบหน้า

นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังช่วยเรื่องริ้วรอย ยังใช้กันอย่างแพร่หลายในการแก้ไขจุดต่างๆ ของโครงสร้างใบหน้า เช่น ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ และฟิลเลอร์หน้าผาก สัดส่วนเหล่านี้สามารถปรับได้สวยงามมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด สารเติมเต็มส่วนใหญ่แบ่งออก เป็น 3 ประเภทตามระยะเวลาเก็บรักษา สารเติมเต็มชั่วคราว (Temporary Filler) และสารเติมเต็มกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) และสารเติมเต็มแบบถาวร และฟิลเลอร์ถาวร (Permanent Filler)

  1. ฟิลเลอร์ชั่วคราว (Temporary Filler) เช่น กรดไฮยาลูโรนิค แอซิด (HA) และคอลลาเจน (Collagen) แต่การฉีดคอลลาเจนไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากการรวบรวมรายงานจากผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์ด้วยคอลลาเจนในอดีต พบว่า 3% ของคนฉีดสารในปฏิกิริยาแพ้ สำหรับกรดไฮยาลูโรนิคนั้นเป็นสารที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก อยู่ได้ประมาณ 12-24 เดือน และถือว่าปลอดภัยมากและสลายไปเองตามธรรมชาติ
  2. สารเติมเต็มกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) เช่น พอลิอะคริลาไมด์ (Polyakylimide) และ PMMA (Polymethyl-methacrylate) มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าสารเติมเต็มชั่วคราว 2-5 ปี ปลอดภัยปานกลางและไม่สามารถย่อยสลายได้ 100% ผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้นมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ผลข้างเคียงมากขึ้น ปฏิกิริยาภูมิแพ้อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากร่างกายรับรู้ว่าสารเติมเต็มกึ่งถาวรนี้เป็นสิ่งแปลกปลอม
  3. สารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent Filler) เช่น ซิลิโคนเหลวและน้ำมันพาราฟินจะให้ผลลัพธ์ถาวรและจะไม่สลายตัวเองตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้ไม่สามารถระบุผลข้างเคียงในระยะยาวได้ การอยู่ในร่างกายนานเกินไปอาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงได้ เราได้ยินเกี่ยวกับการไหลของฟิลเลอร์หรือการฉีดฟิลเลอร์ ใบหน้าบิดเบี้ยว ความโค้งและความไม่สม่ำเสมอของใบหน้า มักเกิดจากการเติมสารถาวรดังกล่าว

ฉีดฟิลเลอร์ ชั่วคราว หนึ่งในสารคือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง จึงอยู่ใกล้กับสารในร่างกายมนุษย์มาก การย่อยสลายตามธรรมชาติได้ผ่านการรับรองจากอย.ทั้งในและต่างประเทศ และยังแบ่งเป็น 2 ฟิลเลอร์ตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ ดังนี้

ทำไมฟิลเลอร์  Hyaluronic Acid จึงได้รับความนิยมสูงที่สุด 2022

กรดไฮยาลูโรนิค แอซิด เรียกได้หลายวิธี ชื่อ HA ชื่อทั้งเอชเอ, ไฮยาลูรอนหรือไฮย่า เป็นกรดที่ร่างกายสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นส่วนประกอบหลักของของเหลวในไขข้อ ซึ่งช่วยหล่อลื่นส่วนต่างๆ ของร่างกาย ลดการเสียดสี เพิ่มความยืดหยุ่นของอวัยวะและเซลล์

กรดไฮยาลูโรนิค แอซิด (HA) ถูกผลิตขึ้นระหว่างผิวชั้นล่าง ผิวหนังชั้นหนังแท้และชั้นบนของผิวหนังหรือผิวหนังชั้นนอก ที่เชื่อมต่อจะกระจัดกระจายไปทั่วและช่วยให้ คอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน ทำงานได้เต็มที่ ส่งผลต่อความสว่าง ความสดใสของผิว คุณสมบัติที่สำคัญของกรดไฮยาลูโรนิค แอซิด ในการฉีด filler คือจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น

เมื่อก่อนอายุ 30 คนเรามักจะไม่ให้ความสนใจกับกรดไฮยาลูโรนิคมากนัก แต่เมื่ออายุเริ่มเกิน 30 เป็นต้นมา จะรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังผลิตกรดไฮยาลูโรนิคลดคอลลาเจนและอีลาสติน ได้น้อยลง โดยปัญหาที่จะตามคือปัญหาด้านริ้วรอย ร่องลึก และความหย่อนคล้อยบนใบหน้า

เนื่องจากผิวเริ่มสูญเสียความชุ่มชื้นและเหี่ยวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ กรดไฮยาลูโรนิคสังเคราะห์จึงถูกคิดค้นขึ้น ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็นสารเติมเต็มที่เรียกว่าใกล้เคียงที่สุดกับของมนุษย์มรามีชื่อว่า filler เพื่อทดแทนชิ้นส่วนที่ผลิตน้อยลงและรักษาการกักเก็บน้ำทำให้มีความชุ่มชื่น นอกจากนี้ยังละลายได้ดีในน้ำ จึงสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

โดยคุณสมบัติหลักๆในการให้ความชุ่มชื้นใน กรดไฮยาลูโรนิค สังเคราะห์ สารนี้จึงเชื่อว่าช่วยลดริ้วรอยและเติมเต็มปริมาตรใต้ผิวหนังได้อย่างแท้จริง และยังจัดเป็นสารที่ปลอดภัยมาก ในอุตสาหกรรมความงามนั้นมีการใช้ กรดไฮยาลูโรนิค อย่างแพร่หลายและสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี และจุดไหนที่ได้รับความนิยมสูงสุด

ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี โดยการฉีดฟิลเลอร์ นั้นสามารถฉีดเข้าไปได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย และบริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์ ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณใบหน้า ตั้งแต่หน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา ใต้ตา จมูก ร่องแก้ม ริมฝีปาก คาง และฉีดปรับรูปหน้าตามต้องการ แต่ถ้าใครต้องการ ฉีดฟิลเลอร์จมูก ที่หน้าผากหรือฟิลเลอร์ตา ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และควรเลือกแพทย์ ที่มีความชำนาญและบริเวณเหล่านี้ค่อนข้างอันตราย

เหตุที่ตำแหน่ง เหล่านี้อันตราย ก็เพราะว่าในหน้าของเรามีหลอดเลือดแดงอยู่จำนวนมากผสานกันเป็นกระจายอยู่ทั่ว โดยการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณเหล่านี้โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและจมูก ต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและศึกษาโครงสร้างใบหน้าของคุณเป็นอย่างดี เพราะหากฉีดเข้าไปแล้ว ฟิลเลอร์ สามารถปิดกั้นกิ่งก้านของหลอดเลือดแดงที่ไหลไปหล่อเลี้ยงดวงตาได้ ผลข้างเคียงต่อการมองเห็นและอาจจะตาบอดได้

การเตรียมตัวก่อน ฉีด filler

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงยา/วิตามิน/อาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี แอสไพริน สารสกัดจากแปะก๊วย biloba เป็นต้น รวมถึงอาหารหมักดอง ก็ควรหลีกเลี่ยง 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและทำให้เลือดแข็งตัวช้า ผู้ป่วยอาจไม่สามารถหยุดเลือดไหลระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ได้ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยฟกช้ำหลังการฉีด

การฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและความกังวลของผู้ป่วยแต่ละราย หลังฉีดเห็นผลทันที ระยะเวลาของผลลัพธ์สำหรับการตั้งค่าฟิลเลอร์แบบไม่พักฟื้นอาจแตกต่างกันตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด และคุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ป่วยต้องปรึกษาแพทย์ก่อนได้รับการฉีดฟิลเลอร์ ให้แพทย์ประเมินใบหน้าและหารือถึงผลลัพธ์ที่ต้องการอย่างชัดเจน เนื่องจากปัญหาและความต้องการของผู้ป่วยแต่ละรายแตกต่างกัน

การได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ฉีดฟิลเลอร์ ชั้นนำ เป็นทางเลือกที่ดีปลอดภัย และสามารถแก้ไขปัญหาให้คุณได้อย่างตรงจุดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจมีคำตอบให้ Bowme clinic เป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา สามารถติดต่อสอบ-ถามเพิ่มเติมได้ที่ FB : bowmeclinic หรือ LINE@ : @bowme ได้ตลอด 24 ชม.