ลดสิวผด ด้วยอากาศและมลภาวะต่างๆ ในปัจจุบัน ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อาจทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ได้มากมาย และหนึ่งในปัญหาบนใบหน้า ที่หลายๆคน อยากหลีกเลี่ยงแต่กลับทำได้ยาก คือ ปัญหา “สิว” สัญญาณผิวที่อ่อนแอขาดความมั่นใจ หากคุณเป็นอีก 1 คน ที่มีปัญหาสิวผดแบบนี้ และใครสงสัยว่าสิวนี้เกิดจากอะไร? เป็นสิว ต้องดูแลอย่างไร? ดังนั้นเราจึงหวังว่าจะรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเพื่อช่วยตอบคำถามทุกข้อ คืนความมั่นใจ
ลดสิวผด บอกลาปัญหาผิวที่สร้างความกวนใจของหลายๆคน
ลดสิวผด ปัญหาที่มักเกิดขึ้นบนใบหน้าของเรา โดยเฉพาะที่หน้าผาก บางครั้งสิวนี้ก็เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล อาจจะจะแพ้อะไรบางอย่าง แต่กิจวัตรการดูแลผิวของเและรับประทานอาหารตามปกติ วันนี้ bowmeclinic เลยอยากพามาทำความเข้าใจว่า “สิวผด” เกิดจากอะไร? ปัญหานี้ควรจัดการอย่างไร?
สิวผด สิวเม็ดเล็ก ๆ ที่น่ารำคาญมากซึ่งเป็นสิวที่รักษายากมาก ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถสร้างรอยแผลเป็นจากสิวได้ เช่น รอยแผลเป็นจากสิวอักเสบ เมื่อลองสัมผัสจะรู้สึกถึงความแหลมของหัวสิว และทำให้เกิดความรำคาญ หากดูแลอย่างถูกวิธีสามาถช่วยให้สิวนี้จางหาย และไม่กลับมาอีก สิวผด สามารถเกิดขึ้นได้ทุก ๆ จุดบนใบหน้า เช่น สิวผดที่หน้าผาก แก้ม คาง หรือขมับ
สิวผดผื่น เม็ดเล็กๆ ที่ปรากฏบนใบหน้านั้นสามารถขึ้นได้กับทุกๆคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้ง่าย และต้องเจอกับปัจจัยกระตุ้นทางสภาพแวดล้อมอากาศและมลภาวะต่างๆ และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ที่เป็นตัวกระตุ้นให้ผิวอ่อนแอลง จึงอาจทำให้เกิดเป็น สิวผด ขึ้น โดยหากมีการดูแลรักษา ลดสิวผดอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เกราะปกป้องผิวแข็งแรงมากขึ้น พร้อมให้คุณเผชิญกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ
สาเหตุการเกิดสิวผดคืออะไร?
สาเหตุ ของ สิวผดเกิดจาก แสงแดด (polymorphic photobursts) คล้ายกับสิวหัวปิด บางครั้งอาจเป็นตุ่มแดงเล็กๆ คล้ายกับสิวอักเสบ ไม่ใช่แค่แสงแดด ที่อาจจะทำให้เกิดสิวได้ ยังมีเชื้อราหรือยีสต์ที่เรียกว่า P.ovale ซึ่งทำปฏิกิริยากับต่อมไขมันในผิวหนังของใบหน้า เช่น หน้าผาก แก้ม คาง และจมูก ซึ่งผลิตน้ำมันเมื่อเจออากาศร้อน น้ำมันที่ไหลออกมากลายเป็นอาหารของเชื้อราหรือยีสต์ P.ovale ซึ่งกระตุ้นการเกิดสิวอีกครั้ง
เชื้อราหรือยีสต์ P.ovale จะอยู่บนผิวหนังของเรา มักปรากฏในบริเวณทีโซนที่มีความมันสูง เช่น หน้าผาก จมูก แก้ม และคาง ในปริมาณมาก ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของสิวได้ดีและเกิดการอักเสบของ ต่อมฟอลลิคูลาร์ ทำให้เกิดสิวขึ้นเป็นจำนวนมาก บริเวณที่สิวขึ้นบ่อยที่สุด คือ บริเวณใบหน้า มักเกิดขึ้นเมื่ออากาศร้อนชื้นและมีเหงื่อออกมาก นอกจากสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจนำไปสู่การเกิดสิวได้ดังนี้
-
ผิวที่อ่อนแอลง
เกิดจาก เกราะปกป้องผิว หรือที่เรียกกันว่า skin barrier ที่ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นของผิว และป้องกันปัจจัยภายนอก ไม่ให้ทำร้ายผิวของเรา ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาผิว เช่น ผิวแห้ง สิว หรือผื่นขึ้นเมื่อเกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง
-
ล้างหน้าน้ำอุ่น
น้ำอุ่นสามารถทำให้ผิวแห้งได้ เสี่ยงต่อการระคายเคือง ต่อมไขมันต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ได้รับมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะล้างหน้าด้วยน้ำที่อุณหภูมิห้อง
-
สภาพอากาศ / ฝุ่น PM 2.5
เชื้อโรคในอากาศสามารถทำให้รูขุมขนอุดตันได้ จนเกิดสิวขึ้นบนใบหน้า
-
เครื่องสำอางต่างๆ
เกิดจากการแพ้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่สัมผัสกับผิวหนัง เช่น น้ำยาทำความสะอาดผิวหน้า โทนเนอร์ เซรั่มที่มีพาราเบน และน้ำหอมที่มีค่า pH ไม่เหมาะสม
-
พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
การล้างหน้าบ่อย ๆ หรือ ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น นี่คือสาเหตุที่ให้สิวไม่สมดุล ทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น เพราะผิวแห้ง จึงเป็นต้นเหตุทำหให้เป็นสิวได้ง่าย หรือจากการสวมหน้ากากอนามัยและสัมผัสใบหน้าด้วยมือที่ไม่สะอาด รวมถึงความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
การป้องกันและดูแลปัญหาสิวผด
การรักษาสิวไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เปลี่ยนนิสัยการ ของเรา เพื่อ รักษาสิวผด ทำให้สิวมีขนาดเล็กลงและหายไปได้ง่ายๆ ลดโอกาสการกำเริบของโรค การจัดการกับปัญหาสิวไม่ยากอย่างที่คิด สิวผด รักษายังไง ลองใช้วิธีการเหล่านี้และใช้คู่กันเพื่อทำให้ใบหน้าของคุณดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น ไม่เน้นเรื่องสิวอีกต่อไป
การดูแลสิวสำหรับผิวแพ้ง่ายต้องได้รับการปรับเปลี่ยนนอกเหนือจากการบำรุงรักษา ลดสิวผด ที่เหมาะสม การรักษาสิวอาจขึ้นอยู่กับ ความรุนแรงของอาการ อันดับแรกเราควรประเมิน ด้วยขั้นตอนการดูแลสิวอย่างเร่งด่วนก่อนเริ่มการ รักษาสิวผด เร่งด่วน สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
1.หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
วิธีลดสิวผด ประการแรกคือสาว ๆ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทุกประเภท ยารักษาสิวที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะยาที่มี AHA, BHA, benzoyl peroxide และ salicylic acid ไม่ควรกำหนดเป้าหมายไปที่สิว เพราะส่วนผสมเหล่านี้สามารถทำให้แห้ง ลอก และระคายเคืองผิวได้ จนทำให้เกิดผื่นแพ้มากขึ้นกว่าเดิม สาวๆต้องเข้าใจก่อนว่า สิวผดไม่เหมือนกับ สิวอักเสบ หรือ สิวทั่วไป
2.ใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน
การเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีสูตรอ่อนโยน ครีมลดสิวผด สามารถช่วยลดปัญหาสิวได้ เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะระคายเคือง ต่อผิวหนังน้อยที่สุด ยังช่วยลดโอกาสการเกิดสิวอีกด้วย สำหรับการเลือกผลิตภัณฑ์ ลดสิวผด ที่มีสูตรอ่อนโยน เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน ซิลิโคน และน้ำหอม เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้ง่าย
3.หมั่นเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
จำไว้ว่า ผิวแห้ง หรือ ผิวลอก อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ นี้จะทำให้สิวมีโอกาสพัฒนาง่ายมาก ดังนั้นจึงต้องให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอยู่เสมอ จะช่วยให้ผิวแข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว สาวๆ ทำได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงการดื่มน้ำมาก ๆ
4.ห้ามล้างหน้าบ่อย
หลายคนอาจคิดว่า การล้างหน้าเป็นประจำ จะช่วยทำความสะอาดพื้นผิว ทำไม่ให้ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดสิวขึ้น แน่นอนผิวของเรานั้นสะอาด จะทำให้เกิดปัญหาผิวน้อยลง แต่บอกเลยว่าการล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือ มากกว่า 3 ครั้งต่อวัน อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ จะทำให้สิวผดผื่นขึ้นจนไม่เซ็ตตัวเลย
5. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
แสงแดดและความร้อน ถือเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง นอกจากนี้ยังทำให้ผิวมีผื่นขึ้น ดังนั้นการ ลดสิวผด หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดด ได้จะต้องปกป้องผิวจากแสงแดดโดยตรง โดยทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ที่สำคัญอย่าอยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ
6. การใช้สเตียรอยด์
การใช้สเตียรอยด์ ในบริเวณที่เป็นสิวจะช่วยลดอาการคันได้ ยังช่วยลดผดผื่นแพ้และ ลดการระคายเคืองผิวหนังได้อย่างรวดเร็วและดีมาก อย่างไรก็ตามการใช้ยากลุ่มนี้ ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะถ้าคุณซื้อใช้เองอาจนำไปสู่การติดสเตียรอยด์ทางผิวหนังได้ ถึงอนาคตจะนำไปสู่สิวสเตียรอยด์
เพื่อนๆ ที่มีปัญหาสิวต้องลอง 6 วิธี สิวผด รักษา นี้ดู bowmeclinic เราเชื่อว่าแต่ละวิธีจะสามารถช่วยลดการระคายเคืองของผิวหนังได้ อย่างไรก็ตาม การรักษาสิวโดยไม่คำนึงถึงผลของสิวจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย อย่างไรก็ตาม สามารถสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม
การได้รับคำแนะนำจากแพทย์ รักษาสิว ชั้นนำ เป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัย และสามารถแก้ไขปัญหาให้คุณได้อย่างตรงจุดศึกษา ข้อมูลก่อนตัดสินใจแต่ถ้าคำตอบยังไม่ใช่สำหรับคุณให้ Bowme clinic เป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา สามารถติดต่อสอบ-ถามเพิ่มเติมได้ที่ FB : bowmeclinic หรือ LINE@ : @bowme ได้ตลอด 24 ชม.