สิวเสี้ยน หรือสิวหัวดำ (Blackhead) คือความผิดปกติของรูขุมขน ทำให้เกิดเป็นเส้นขนอ่อนๆ ขึ้นและไม่สามารถร่วงออกไปเองได้ เมื่อมีการรวมตัวกับไขมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายไป ทำให้เกิดอาการสิวอุดตันเม็ดเล็กๆ ที่มีสักษณะเป็นสีดำ มักเกิดขึ้นมากบริเวณจมูกหรือบริเวณแก้ม
สิวเสี้ยน กำจัดได้ง่ายๆ เผยผิวหน้าเนียนใส ไม่ทำให้รูขุมขนกว้าง
สิวเสี้ยน หรือวิธีที่จะสามารถกำจัดสิวเสี้ยน จึงเป็นคีย์เวิร์ดที่หลายคนค้นหา เพราะสิวเสี้ยนหรือ สิวหัวดำ ทำให้ผิวหน้าอันสวยของคุณนั้นไม่เรียบเนียน และถ้าหากปล่อยไว้นานก็อาจจะทำให้ลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบได้ในที่สุด และหลายๆคนกำจัด สิวเสี้ยน ด้วยการใช้แผ่น ลอกสิวเสี้ยน แต่แค่นั้นอาจยังไม่เพียงพอ ลองดูเคล็ดลับเหล่านี้ที่จะช่วยรักษาปัญหาสิวเสี้ยนให้หมดไป โดยบทความนี้จะขอนำเสนอวิธีกำจัดสิวเสี้ยนง่ายๆ ให้หายขาด เตรียมบอกลาปัญหาสิวเสี้ยนไปได้เลย
สิวเสี้ยนหรือสิวหัวดำ (Blackhead) มักก่อให้เกิดความรำคาญใจเมื่อเราลองสัมผัสใบหน้า เพราะสิวเสี้ยนนั้นจะส่งผลให้ใบหน้ามีความรู้สึกที่ไม่เรียบเนียน เพราะเมื่อลูบผิวแล้วอาจจะรู้สึกได้ถึงจุดเล็กๆอยู่ทั่วใบหน้า ถึงแม้ว่าสิวเสี้ยนมักจะมีขนาดเล็ก มองเห็นได้ยาก ไม่ร้ายแรงกับสุขภาพ แต่ก็อาจก่อให้เกิดความกวนใจได้มากพอสมควร
สิวเสี้ยน คืออะไร
สิวเสี้ยนคือสิวอีกหนึ่งเป็นประเภทของสิวที่เกิดจากความผิดปกติจากรูขุมขน อีกทั้งยังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยมีลักษณะคล้ายสิวอุดตันหัวดำ และเป็นสิวประเภทเดียวกับสิวอุดตัน สิวเสี้ยนหรือสิวหัวดำ หลายๆคนอาจจะคิดว่าสิวเสี้ยนเป็นสิวประเภทที่ไม่มีหัว แต่แท้จริงแล้ว หัวของสิวเสี้ยนจะอยู่บริเวณที่มีขนอ่อนๆออกมาจากรูขุมขน
สาเหตุของการเกิดสิวมักเกิดจากรูขุมขนของเรามีการผลิตขนที่อ่อนนุ่มขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก และจะไม่สามารถร่วงได้ตามปกติ เมื่อไขมันอุดตันรูขุมขนจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสิวดำ มักพบในบริเวณจมูกเพราะ สิวตรงจมูก เป็นอีกบริเวณที่คนส่วนมากมีรูขุมขนกว้าง ทำให้ง่ายต่อการที่สิ่งสกปรก และไขมันส่วนเกินจะไหลรวม ไปอุดตันในรูขุมขนเป็นสิวเสี้ยนได้ง่าย
สาเหตุของการเกิดสิว
สิวเสี้ยน ในทุกวันนี้ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสิว และใบหน้าของแทบทุกคน และยังส่งผลต่อผิวของเราได้หลายอย่าง นอกจากนี้ ความน่ากลัวของ สิวเสี้ยนอีกอย่างหนึ่งคือ มันเป็นสิวที่รักษาให้หายขาดได้ยากมากๆ เพราะสิวเสี้ยนทั้งเล็ก ฝังลึก แถมยังไม่สามารถแห้งหรือหลุดลอกออกไปได้เองอีกต่างหาก
1. อายุและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
เมื่ออายุมากขึ้น ทำให้อายุนั้นส่งผลให้ฮอร์โมน มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่ระดับฮอร์โมนที่ไม่คงที่ ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย โดยฮอร์โมนที่ไม่คงที่อาจส่งผลต่อรูขุมขนและการเกิดสิวได้ เช่น การผลิตน้ำมันส่วนเกินของผิว และการผลัดเซลล์ผิวที่บ่อยกว่าปกติ นอกจากวัยรุ่นแล้วผู้ที่มีปัญหาทางด้านฮอร์โมน เช่น ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิด ก็เป็นตัวแปรที่ส่งผลต่อฮอร์โมนด้วย
2. อุดตันรูขุมจากการใช้เมคอัพ
การใช้เครื่องสำอางบางประเภทอาจทำให้เกิดการอุดตันและการเกิดสิวได้ เช่น การแต่งหน้าแบบใช้เครื่องสำอางที่มีน้ำมันผสมอยู่ ครีมกันแดดหรือแป้งโรยตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถจับกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ทำให้อุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิวอุดตันได้
3. การสัมผัสกับผิวหนังอย่างรุนแรง เช่น บีบ เกา ขัดผิว
การสัมผัสกับผิวหนังอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังในบริเวณนั้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดสิวได้ ด้วยเหตุนี้การบีบหรือลอก สิวเสียนเยอะตรงจมูก จึงไม่สามารถรักษาสิวได้ถาวร และอาจทำให้เกิดสิวในบริเวณใกล้เคียงได้ เช่น ร่องแก้ม
4. เหงื่อจากร่างกาย
เหงื่อที่ออกมากเกินไปจากร่างกายอาจทำให้เกิดสิวได้ง่าย การเกิด สิวที่จมูก หรือโหนกแก้มเป็นเรื่องปกติ และเนื่องจากในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนและทำให้เกิดเหงื่อได้ง่าย การโกนหรือขยายรูขุมขน ถอนขน และแว็กซ์อาจทำให้รูขุมขนระคายเคืองและทำให้รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้นได้ หากไม่ดูแลผิวบริเวณที่ระคายเคือง อาจทำให้เกิดการอุดตันและเกิดสิวหรือสิวชนิดอื่นๆได้ ในภายหลัง
5. ความเครียดสะสม
ความเครียดที่สะสมอาจส่งผลต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย และอาจทำให้เกิดการหลั่งน้ำมันในร่างกายผิดปกติซึ่งอาจทำให้สิวขึ้นที่ผิวหนังได้
6. กินอาหารที่เป็นสิวง่าย
การรับประทานอาหารที่เป็นสิวได้ง่าย มีไขมันและน้ำตาลสูง การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงช่วยให้ร่างกายกระตุ้นการผลิตไขมันในต่อมไขมัน
7. ใช้ยาเร่งการผลัดเซลล์ผิว
การใช้ยาเร่งการผลัดเซลล์ผิว หากใช้เป็นประจำอาจทำลายผิวชั้นใน ทำให้เกิดอาการระคายเคือง อาการอักเสบ และสิวได้
บริเวณที่เกิดสิวเสี้ยน
สิวประเภทที่พบบ่อยที่สุดคือสิวหัวดำ ซึ่งเห็นได้ชัดจากการปรากฏตัวของสิวหัวดำอันเนื่องมาจากการทำงานร่วมกันของไขมันและอากาศ อันที่จริง สิวสามารถพบได้ทุกที่บนผิวหนัง แต่จะพบมากบนพื้นผิวโดยเฉพาะบริเวณที่มีเลือดคั่งมักปรากฏดังนี้
- สิวที่หลัง ส่วนหลังเป็นจุดที่เกิดการอับชื้น อุดตันได้ง่ายจุดหนึ่ง การอุดตันจากอากาศร้อนจนเหงื่อออกเยอะทำให้ผ้าเป็นที่อับชื้น และเสียดสีบริเวณนี้บ่อย ๆ
- สิวที่จมูก จมูกยังเป็นที่สำหรับสิว โดยเฉพาะบริเวณปลายจมูก เป็นจุดยอดนิยมสำหรับผู้ที่เป็นสิว
- สิวที่คาง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้บ่อย เพราะหากคุณแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปาก ครีมโกนหนวดที่ไหลลงสู่บริเวณคาง ก็อาจจะทำให้เกิดสิวขึ้นได้
- สิวที่หน้าผาก บริเวณที่เป็นสิวที่อาจจะเกิดจากเหงื่อ ซึ่งนำสิ่งสกปรกจากเส้นผมลงมาสู่ใบหน้า หรืออาจเป็นกรณีของการแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมต่างๆ
- สิวที่แก้ม
ปัญหาสิวกับปัญหาผิวสวยคล้ายจะเป็นของคู่กัน และปัญหาสิวที่ผู้หญิงโดยส่วนใหญ่ หนึ่งในนั้นคือสิวบริเวณจมูก คางและใต้ริมฝีปากที่เห็นได้ชัดเจน ถ้ามีลักษณะคล้ายเสี้ยนหนามเล็กๆ เรียกกันว่า สิวเสี้ยน นั่นเอง เชื่อว่าหลายคนที่มีปัญหาสิวเสี้ยนต่างก็อดสงสัยไม่ได้ว่าสิวเสี้ยนเกิดขึ้นได้อย่างไรและหากเราได้ทราบแล้วว่าบริเวณไหนบ้างที่จะพบสิวเสี้ยนได้มากที่สุด เราก็จะสามารถจัดการได้ถูกจุดแล้วว่าบริเวณไหนเราควรที่จะต้องใส่ใจดูแล ทำความสะอาดผิวให้มากที่สุด
วิธีการรักษาสิวเสี้ยน
เคยไหม เมื่อเราส่องกระจกดูบนผิวหน้าทีไร เรามักจะพบจุดดำๆ พร้อมกับสิวเสี้ยนส่วนจมูกของเราทุก และบางครั้งก็อดไม่ได้ไปบีบไปกดให้มันออกมา พอทำบ่อยๆ ก็รู้สึกว่ารูขุมขนใหญ่ขึ้นมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ วิธีกำจัดสิวเสี้ยน แบบผิดๆ ทำให้เกิดปัญหาผิวขึ้นมาได้ สำหรับวิธีการรักษาสิวเสี้ยนที่ถูกต้อง มีดังนี้
1. การใช้ยาเฉพาะที่ (ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง)
ยา กำจัดสิวเสี้ยน ที่ใช้บ่อยที่สุด ที่มีกรด 3 ประเภทคือ
- กรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid) ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนและขจัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยให้หน้าเนียนไม่อุดตันเซลล์ผิว
- กรดไกลโคลิค (Glycolic Acid) สามารถใช้ลดสิวเสี้ยนและฟื้นฟูผิวได้ อย่างไรก็ตาม การใช้กรดไกลโคลิกเข้มข้นเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อชั้นในของผิวหนัง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองของกรดได้
- กรดอะซิติคหรือกรดอะซีลาอิค แต่กรดประเภทนี้อาจทำให้ผิวหนังแดงและคันได้ และรู้สึกแสบร้อนได้
ดังนั้นการใช้เฉพาะที่ต้องระวัง เนื่องจากสารเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการ สิวเสี้ยน และผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดการอุดตันยังเป็นกรดและอาจเป็นอันตรายต่อผิวบอบบาง เช่นเดียวกับผู้ที่มีผิวแห้งเพราะยาเหล่านี้มีผลทำให้ผิวแห้งมากขึ้น นอกจากการใช้ยาเหล่านี้จะช่วยละลายหัวสิวแล้ว คุณยังสามารถใช้เครื่องกดสิวเพื่อช่วยกดหัวสิวได้
2. ใช้สารเคมีในการผลัดเซลล์ผิว
สารสกัดขัดผิวยอดนิยม เช่น AHA BHA มักพบในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำเฉพาะผู้ที่เป็นสิว ดูแลผิว ช่วยให้สิวแห้งและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดโอกาสการอุดตัน นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้สิวหาย แต่ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลายอย่างเหล่านี้สามารถระคายเคืองผิวและนำไปสู่การเกิดสิวจากความระคายและผิวที่อ่อนแอได้
3. ทำความสะอาดใบหน้าด้วยแปรง
ใช้แปรงทำความสะอาดแม้ว่าจะนุ่มมากก็ตาม แต่ก็อาจเป็นอันตรายต่อผิวมากกว่าการขัดผิว เนื่องจากรูขุมขนบนใบหน้าต้องการการดูแลที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ การใช้แปรงทำความสะอาดอาจทำให้แปรงบาดใบหน้าได้ หรือแบคทีเรียที่สะสมบนแปรงไม่สะอาด การเลือกใช้แปรงทำความสะอาดต้องระมัดระวังและพิจารณาว่าประเภทผิวจะเข้ากันได้กับแปรงหรือไม่ มิฉะนั้น การใช้แปรงเพื่อ กําจัดสิวเสื้ยน ถาวร อาจกลายเป็นวิธีการเพิ่มสิวที่ใบหน้าแทน
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
สิวเป็นภาวะผิวหนังทั่วไปและไม่เป็นอันตรายมากอย่างไรก็ตาม หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปจากการด้วยการสิวเสี้ยน ที่บ้าน อาจถึงเวลาต้องไปพบแพทย์ผิวหนัง แพทย์ผิวหนังจะระบุชนิดของสิวและกำหนดแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด
หากบุคคลใดพบว่าสิวส่งผลต่อ ความมั่นใจในตนเอง หรือสุขภาพจิตที่ดี ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และบางครั้งอาการอื่นๆ ของผิวหนังอาจคล้ายกับสิว ปัญหาสุขภาพที่อาจทำให้เกิดรอยโรคที่คล้ายกับสิวมีความรุนแรงมาก ใครก็ตามที่มีสิวเสี้ยนหรือสิวที่ดูผิดปกติร่วมกับอาการอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ในทันที
ควรไปพบแพทย์หากพบอาการเหล่านี้
- สิวเกิดขึ้นเฉพาะรอบปาก
- สิวรู้สึกคัน มีลักษณะเป็นตุ่มพอง หรือเป็นเปลือกหุ้ม
- มีตุ่มขนาดใหญ่หรือซีสต์เกิดขึ้นใต้รักแร้หรือรอบขาหนีบ
- ฝ้าเปลี่ยนรูปร่าง ขนาด หรือสีในระยะเวลาอันสั้น
- สิวที่มากับประจำเดือนมาไม่ปกติ ผิวคล้ำเป็นหย่อม หรือผมร่วง
สรุป
สิวเป็นภาวะผิวหนังทั่วไปที่มักส่งผลกระทบต่อร่างกายส่วนบน โดยเฉพาะใบหน้า มักจะไม่เป็นอันตรายและบางส่วนหายไปภายในสองสามวันหรือสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม สิวบางชนิดยังคงมีอยู่และอาจหายได้ด้วยการรักษาเท่านั้น กลยุทธ์ด้านสุขอนามัย การเยียวยาที่บ้าน และผลิตภัณฑ์ดูแลมักจะช่วยได้ หากสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ผล แพทย์ผิวหนังที่ bowmeclinic สามารถจัดทำแผนการ รักษาสิว ได้ด้วยการรักษาผู้คนอาจเห็นการปรับปรุงภายในไม่กี่เดือน
การได้รับคำแนะนำจากแพทย์ชั้นนำ เป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัย และสามารถแก้ไขปัญหาให้คุณได้อย่างตรงจุดศึกษา ข้อมูลก่อนตัดสินใจแต่ถ้าคำตอบยังไม่ใช่สำหรับคุณให้ Bowme clinic เป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา สามารถติดต่อสอบ-ถามเพิ่มเติมได้ที่ FB : bowmeclinic หรือ LINE@ : @bowme ได้ตลอด 24 ชม.