หลังฉีดโบท็อก เพื่อลดเลือนริ้วร้อยต่างๆ เพราะปัญหาริ้วร้อย รอยย่นต่างๆ จะเพิ่มขึ้นตามอายุ หรืออาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น แสงแดดในเมืองไทย ความเครียด การใช้เครื่องสำอางมากเกินไป หรือการไม่ล้างหน้า และ ทาครีมบำรุงก่อนเข้านอน หรือ แม้กระทั่งการขมวดคิ้วหรือย่นหน้าผากก็เป็นสาเหตุของริ้วรอย

หลังฉีดโบท็อก

หลังฉีดโบท็อก ให้โบท็อกเข้าที่และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หลังฉีดโบท็อก botox  หรือ สารโบทูลินัม ทอกซิน ซึ่งเป็นสารที่สกัดจากแบคทีเรียที่เรียกว่า Clostridium botulinum ซึ่งเป็นโปรตีนที่จับตัวเข้ากับ ปลายประสาท ที่ควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วยับยั้งกล้ามเนื้อที่เลี้ยง โดยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นไม่สามารถหดตัวและยังคงสภาพคลายตัว (ลดริ้วรอย) หรือ ลดการทำงานของกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง (ลดขนาดกรามหรือลดขนาดน่อง)

การฉีดโบท็อกซ์ เป็นที่นิยมมากในตอนนี้ เพราะช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว ลดริ้วรอย และทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัยโดยไม่ต้องพักฟื้น คุณยังสามารถดูผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ยาสลายตัว 100% ริ้วรอยเพิ่มขึ้นตามอายุ และอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น แสงแดดเมืองไทย ความเครียด การใช้เครื่องสำอางมากเกินไป หรือไม่ล้างหน้า และ ทาครีมบำรุงก่อนเข้านอน หรือ แม้กระทั่งการขมวดคิ้ว หรือ ย่นหน้าผากก็เป็นสาเหตุของริ้วรอย

ก่อนจะรู้จักการดูแลตัวเองหลัง ฉีดโบท็อกซ์ มีวิธีดูแล หรือ ข้อห้าม หลังฉีดโบทอก เราขออธิบายการออกฤทธิ์ของ โบท็อก ก่อนฉีดโบท็อก ต้องทำอย่างไร หรือการเตรียมตัวไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกบนใบหน้า เช่น ฉีดโบท็อกกรอบหน้า ฉีดโบท็อกคิ้ว โบท็อกใต้ตา ควรทำอย่างไร

โบท็อก เมื่อฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อ จะแยกเป็น 2 ส่วน

เมื่อแพทย์ ฉีดโบท็อก เข้าไปในบริเวณกล้ามเนื้อที่ต้องการ สารจะออกฤทธิ์ที่ปลายประสาท ลดการหลั่งสารสื่อประสาทเข้าสู่กล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อนั้นอ่อนแรงลง และในที่สุดผลการคลายตัว ริ้วรอยก็ลดลง ผิวเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้เมื่อกล้ามเนื้ออ่อนแรงและไม่สามารถขยับตัวได้ กล้ามเนื้อจะค่อยๆ ลีบ ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงและหดตัว การฉีดโบท็อกซ์ เห็นผลหลังฉีด 2-3 วัน ผลของการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือน

ควรเตรียมตัวอย่างไร ก่อนเข้าฉีดโบท็อก?

ก่อนฉีด botox ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ให้โบท็อกซ์ ส่วนที่ 2 ปลิวไปน้อยที่สุด? และทำให้ส่วนแรก เข้มข้นและยาวนานกว่าปกติ โดยวิธีนี้จะทำให้เราได้รับผลลัพธ์หลังจากฉีดโบท็อกออกมาดีที่สุด โดยการเตรียมตัว ก่อนฉีดโบท็อก มีดังนี้

ควรใช้โบท็อกแท้เท่านั้น

เพราะ โบทูลินั่ม ทอกซิน ของแท้ มีการกระจายตัวที่ต่ำกว่า นั่นหมายความว่า ฉีดตรงจุดไหน โบท็อกก็จะอยู่จุดนั้น จะช่วยลดการปลิวหายของโบท็อก ดังนั้นก่อนฉีดแต่ละครั้ง ต้องเช็คว่าฉีด “โบท็อกซ์จริง” หรือไม่ เราควรเตรียมศึกษา วิธีการดูแบรนด์โบท็อกซ์ที่แท้ อย่างถูกต้อง

และควรให้แพทย์ ผสมโบท็อกซ์ ให้เห็นต่อหน้า และหลังฉีดควรนำกล่อง และ ขวดกลับบ้าน หรือถ่ายรูปตรวจสอบ ให้แน่ใจว่าฉีดโบท็อกซ์ของจริง (ถ้าเป็นคลินิกจริง จะยินดีให้คนไข้เช็คอย่างแน่นอน)

การผสมน้ำเกลือ

(โบท็อกซ์ของแท้ทุกยี่ห้อจะมาในรูปแบบสุญญากาศแบบแห้งโดยไม่มีน้ำ ต้องใช้น้ำเกลือเจือจางและละลาย ก่อนจึงจะนำมาฉีดเข้าไปได้) หากใช้น้ำเกลือละลายและเจือจางมากเกินไป จะทำให้โบท็อกซ์ปลิวหนีไปได้ง่ายขึ้น ปริมาณที่เหมาะสมคือน้ำเกลือ 2.6 มล. ต่อสารพิษโบทูลินัม 100 หน่วย

แพทย์ของคุณควรผสมโบท็อกซ์ ให้คุณดูต่อหน้าของคุณ ก่อนการฉีดแต่ละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำเกลือจะไม่เจือจางมากเกินไป ถ้ามีการผสมมาก่อนแล้ว เราจะไม่รู้เลยว่า เจือจางหรือเข้มข้น

เทคนิคและวิธ๊การฉีด

เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และ แพทย์ที่มีประสบการณ์ ในการประเมิน การฉีดโบท็อก ว่าควรฉีดเข้าจุดที่เซลล์ประสาทยึดติด กับ กล้ามเนื้อลึกแค่ไหน? หากฉีดไม่ถูกวิธี ผลที่ได้จะเหมือนกันเช่นเดียวกัน แต่ผลลัพธ์จะช้ากว่า และ ยั่งยืนน้อยกว่า เพราะต้องรอให้ โบท็อกซ์ หรือ botulinum toxin เข้าสู่บริเวณที่ฉีดไปยังปลายเซลล์ประสาท

ส่วนที่2 ซึ่งปลิวไป อาจกระตุ้นให้ร่างกายเพิ่มภูมิคุ้มกัน ทำให้ทนทานต่อสารพิษ โบทูลินัม

ไม่ควรใช้ยูนิตในแต่ละครั้งเกิน 300 ยูนิต

สิ่งนี้จะเพิ่มโอกาสให้ร่างกายสร้าง ภูมิคุ้มกัน ได้ง่ายขึ้น และ ควรหลีกเลี่ยง เทคนิคการฉีดที่ ไม่ ฉีดโบท็อกซ์ เข้าสู่กล้ามเนื้อ โดยตรง สิ่งนี้ จะเพิ่มความเสี่ยงของการต่อต้าน และ ไม่ควรใช้หน่วยน้อยเกินไป ในแต่ละจุด เนื่องจาก มันทำให้ผลเร็วขึ้นแต่ต้องต้องฉีดบ่อยขึ้นนั้นเอง มันจึงเสี่ยงต่อการเกิดความต้านทานต่อ โบท็อกซ์ แพทย์จะประเมิน และ แนะนำผู้ป่วยว่าควรใช้กี่หน่วย

ระหว่างการฉีด

ควรใช้ การประคบเย็น เพื่อลดการไหลเวียน ของเลือดบริเวณที่ฉีด และ โบทูลินั่ม ท็อกซิน จะอยู่ในตำแหน่งที่แพทย์ต้องการให้ฉีด แทนที่จะถูกพัดปลิวไปและกระตุ้นการต่อต้าน โบท็อก

หลังฉีดโบท็อก มีข้อปฏิบัติตัวอย่างไรให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น

1. หลังฉีดโบท็อกควรขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที

ควรขยับกล้ามเนื้อที่ฉีดทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที หลังจากการฉีดทั้งหมด เพื่อให้เซลล์ประสาท รับ สารพิษโบทูลินัม ได้มากที่สุด แต่คุณไม่ควรใช้การประคบเย็น หลังการฉีด เนื่องจากจะป้องกันไม่ให้โบท็อกซ์ถูกดูดซึมเข้าสู่เซลล์ประสาท (คือเราบล็อกรอบ ๆ การฉีดด้วยความหนาวเย็นแล้ว ค่อยขยับกล้ามเนื้อหลัง การฉีดเพื่อ ดึงโบทูลินั่ม ท็อกซิน เข้าสู่เซลล์นั้นเอง)

2. หลังฉีดโบท็อกควรงดนอนราบ

อาการหลังฉีดโบท็อกซ์ โดยส่วนใหญ่จะมีอาการบวมเป็นปกติ หลังฉีดโบท็อก ดังนั้นอย่าเกาบริเวณที่ฉีด รวมถึงการหลีกเลี่ยง การก้มศีรษะต่ำ กว่า ระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไปที่ใบหน้ามากขึ้น และ โบท็อกซ์จะมีโอกาสปลิวมากขึ้น

โบท็อก ส่วนที่ 1 ในเซลล์ประสาท จะทำหน้าที่ระงับกล้ามเนื้อเป็นเวลา 7-14 วัน จึงจะเริ่มเห็นผลของการกดการทำงานของกล้ามเนื้อ และความเข้มข้นของโบท็อกซ์จะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป และปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้โบท็อกซ์ สลายเร็วขึ้น คือ ความร้อน และการไหลเวียนของเลือด (การเผาผลาญ)

3. จากงานวิจัยพบว่า การกินแร่ธาตุ zinc ก่อน-หลังการฉีดโบท็อก ช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ดีขึ้น

และช่วยให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น แต่ในบางกรณี อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากโบท็อกซ์ได้มากกว่า จึงแนะนำให้บริโภคตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่แร่ธาตุสังกะสีไม่เพียงพออย่างเห็นได้ชัด หรือกรณีเริ่มดื้อสารโบทูลินั่มท็อกซิน( อาการคือ โบท็อกอยู่ไม่ได้นาน) เพียงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากคุณรับประทานอาหารจากอาหารหรือรับประทานไม่เกิน 15-20 มก./วัน ในปริมาณปกติตามที่กำหนดโดย RDA ของไทย คุณสามารถทานได้ตามปกติ ผู้ที่พบอาการขาดธาตุสังกะสี เช่น ผมร่วงเป็นสองแฉก เป็นแผลเรื้อรัง ผิวแห้งลอก มีแนวโน้มเป็นผดผื่น เล็บแห้ง แนะนำให้ทานก่อนหรือ หลังฉีดโบท็อก จะช่วยให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น

ควรฉีดโบทูลินั่มท็อกซินอย่างต่อเนื่องในระยะทางที่เหมาะสม

อย่าฉีดบ่อย (ควรขาดอย่างน้อย 3 เดือน) และไม่เว้นระยะห่างมากเกินไป (ไม่ควรห่างกันเกิน 5-6 เดือน) เพราะจะช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างถูกต้อง และอาจต้องใช้โบทูลินัมท็อกซินเพิ่มขึ้นอีกหน่วย

การได้รับคำแนะนำจากแพทย์ โบท็อก ชั้นนำ เป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัย และสามารถแก้ไขปัญหาให้คุณได้อย่างตรงจุด ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจแต่ถ้าคำตอบยังไม่ใช่สำหรับคุณให้ Bowme clinic เป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา สามารถติดต่อสอบ-ถามเพิ่มเติมได้ที่ FB : bowmeclinic หรือ LINE@ : @bowme ได้ตลอด 24 ชม.